13 สิงหาคม 2554 ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลจากจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดไหลผ่านอ.พรหมพิราม และ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยในเขตเทศบาลนครพิษณุโลกได้เตรียมกระสอบทรายและเครื่องสูงน้ำไว้รองรับ ขณะที่พื้นที่ด้านทิศเหนือของอ.เมืองพิษณุโลกที่เป็นที่ต่ำ ความสูงของแม่น้ำน่านได้เริ่มไหลเข้าท่วมพื้นบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านแล้ว ในเขตต.หัวรอ ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก รถกระจายเสียงของอบต.หัวรอและอบต.ปากโทกได้วิ่งกระจายเสียงแจ้งเตือนให้ประชาชนเก็บของขึ้นสู่ที่สูงโดยเร็ว เนื่องจากกำลังมีปริมาณน้ำจากเขื่อนนเรศวรที่จะระบายลงมาอีกมาก
ที่ม.4 ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก นายดิเรก ขำแจ่ม ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน่านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำได้ไหลท่วมพชผลทางการเกษตรเสียหายและไหลเข้าท่วมตัวบ้าน ต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง เพราะคาดการณ์ว่าน้ำจะเพิ่มระดับอีก 50 เซนติเมตร ส่วนที่บ้านบางพะยอม ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านได้นำกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำเข้าบ้าน และนำกระสอบทรายหนุนสิ่งของให้พ้นน้ำ ส่วนร้านหว่อง ริมน่าน ร้านอาหารชื่อดังของเมืองพิษณุโลก พนักงานได้เตรียมขนกระสอบทรายไว้กั้นน้ำแล้ว แต่คาดว่าคงไม่พ้นถูกน้ำท่วมแน่นอน ส่วนที่บ้านไผ่ค่อม ม.1 ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก ที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ก่อนจะไหลมาบรรจบแม่น้ำน่าน ชาวบ้านได้ช่วยกันกรอกทำแนวกระทรายกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้ามา ระดับน้ำแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากไม่สามารถระบายลงแม่น้ำน่านได้
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ยังมีน้ำก้อนใหญ่อีกหนึ่งก้อนกำลังไหลจากอุตรดิตถืเข้าสู่พิษณุโลก คาดว่าเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 14 สิงหาคม แม่น้ำน่านจะมีระดับสูงสุดที่ 9.8 เมตร มีน้ำไหลผ่าน 1,250 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณขนาดนี้ที่ต่ำเขตต.หัวรอ ต.ปากโทก ต.จอมทองได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนเขตเทศบาลยังไม่ถึงจุดวิกฤติที่ 10 เมตร ขณะนี้ได้ชะลอการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อย และเร่งระบายน้ำลงคลองชลประทานโดยเขื่อนนเรศวรอ.พรหมพิราม