เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 24 มี.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่อาคารทีปวิชญ์ สำนักอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมชุดสืบสวน ได้เดินไปพบกับดร.สาคร สร้อยสังวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 3 นาย ได้ทำร้ายร่างกายนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จำนวน 5 ราย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับมีการใช้อาวุธปืนยิงรถ และข่มขู่นักศึกษา ทำให้เมื่อวานที่ผ่านมาได้นักศึกษาได้ไปร้องเรียนกับตำรวจภูธรภาค 6 ในและวันนี้หวั่นเกรงนักศึกษาจะเดินทางไปกดดันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่โรงพักจำนวนมาก จนอาจเกิดปัญหามวลชนได้ ทำให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ต้องเดินทางทำความเข้าใจ
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้ตนเองขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งการดำเนินคดีทางด้านการจราจร เนื่องจากวันที่เกิดเหตุ น้องนักศึกษาราชภัฏ ได้มีการเชี่ยวชนรถของตำรวจชุดสืบที่ลงมือก่อเหตุ ก่อน ขณะทางด้านอาญานั้นก็จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเบื้องต้นได้ตนเองจะสั่งย้ายตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ยศ. ร.ต.อ. วุฒิภัทร บัวอุไร นาย ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ นาย และ ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ไปประจำตำรวจภูธรภาค 6 ก่อน เพื่อความสบายใจของน้องนักศึกษา พร้อมทั้งตั้งชุดสอบวินัย และดำเนินคดีอาญา โดย พ.ต.อ.พิเศรษฐพงศ์ ธนาบูรณศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน และจะมีคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวน เป็นพยาน ในครั้งนี้ ซึ่งตนเองรับรองว่าใครผิดก็ดำเนินไปตามความจริง อย่างไรก็ตามก็ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
พล.ต.ต.อดิศักดิ์ เผยต่อว่า ขณะนี้การดำเนินคดีมีอยู่ 2 ส่วน คดีแรกเป็นคดีจราจร ส.ต.อ.สุบิน นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก แจ้งความคดีจราจรเลขที่ 30/2559 รถของนศ.เฉี่ยวชนรถของตำรวจแล้วหลบหนี ซึ่งยังไม่ได้สอบปากคำพยาน เนื่องจากนศ.ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย และ คดีอาญาที่ 474/2559 นศ.5 คน แจ้งความถูกฝ่ายตำรวจชุดสืบสวนทำร้ายร่างกาย ในชั้นต้นยังไม่ได้สอบสวน อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนผู้เสียหายในวันนี้ ส่วนผลการสอบสวนจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การสอบสวนและพยานหลักฐาน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับคดี กรณีที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงขู่ ยิงใส่รถ และทำร้ายร่างกาย รอผลการสอบสวนก่อนจึงจะตั้งข้อกล่าวหา และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตำรวจทั้ง 3 นายควบคู่กันไปด้วย
ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เผยต่อว่า นับแต่ตนมารับตำแหน่งได้ 5 เดือน ได้ออกไปเยี่ยมตำรวจทุกสถานี เน้นย้ำให้ทุกโรงพัก ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสื่อสัตย์ สุจริต อยู่ในระเบียบวินัย ตำรวจในพิษณุโลกมี 2,000 กว่านาย ทุกคน คงไม่สามารถเป็นคนดีได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์?ของตำรวจ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องขอโทษด้วย
ขณะที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เปิดเผยว่า วันนี้ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกได้มาพบและนำเสนอถึงความคืบหน้าของคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และขอความร่วมมือนศ.ในการออกมาร่วมแสดงพลังให้กำลังใจเพื่อนนักศึกษา เพื่อไม่ให้เกิด้หตุบานปลาย และตนก็ได้ชี้แจงให้นักศึกษาได้เข้าใจแล้ว วันนี้ก็ได้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน มหาวิทยาลัย ได้มอบหมายให้อาจารย์พิมล เกษมเสาวภาคย์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เข้าไปเป็นพยานในการสอบปากคำและดูแลนักศึกษา ซึ่งทำงานร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก
อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 จะได้ดำเนินการตรวจสอบรถของนักศึกษาที่ถูกตำรวจยิงใส่ ก่อนที่จะลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง พร้อมกันนี้เวลา 11.00 น.วันนี้ ที่สภ.เมืองพิษณุโลก นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 ราย ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว
///////////